ลินสีด (Linseed) เป็นพืชประเภทตระกูลฝ้ายที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและตะวันออกกลาง ผลของมันมีลักษณะเป็นเมล็ดเล็ก ๆ รูปไข่ ที่เรียกว่าเมล็ดงา (Flax seed) เมล็ดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์มาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตน้ำมันลินสีด (Linseed oil) ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นและถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
คุณสมบัติของน้ำมันลินสีด: ความเหนียว tenacity ที่ไม่เหมือนใคร
น้ำมันลินสีดเป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่งที่มีความหนืดสูง และมีคุณสมบัติการยึดเกาะ (adhesion) ที่ดีเยี่ยม เนื่องจากโครงสร้างโมเลกุลของมันประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวจำนวนมาก ซึ่งทำให้สามารถ polymerize ได้ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม โดยผ่านกระบวนการ oxidation
เมื่อน้ำมันลินสีดถูกทาลงบนพื้นผิวและสัมผัสกับอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (oxidation) ทำให้โมเลกุลของไขมันพันกันอย่างรัดกุม เกิดเป็นฟิล์มที่แข็งแรงและทนทาน
คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ ของน้ำมันลินสีด ได้แก่:
-
ความเหนียว: น้ำมันลินสีดมีความเหนียวสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแกร่ง
-
การกันน้ำ: ฟิล์มของน้ำมันลินสีดเมื่อแห้งจะกันน้ำได้ดี จึงถูกนำไปใช้ในการเคลือบผิวไม้และโลหะ
-
ความยืดหยุ่น: น้ำมันลินสีดมีความยืดหยุ่นสูง สามารถขยายและหดตัวตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
-
ความทนทานต่อแสง UV: ฟิล์มของน้ำมันลินสีดมีความทนทานต่อแสง UV ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง
-
สีที่สวยงาม: น้ำมันลินสีดเมื่อแห้งจะมีสีเหลืองอ่อนถึงสีน้ำตาล
ความหลากหลายในการใช้งาน: จากสีทาบ้านไปจนถึงงานศิลปะ!
เนื่องจากน้ำมันลินสีดมีคุณสมบัติเด่นที่กล่าวมาแล้ว ทำให้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมและงานต่าง ๆ มากมาย เช่น
-
อุตสาหกรรมสี: น้ำมันลินสีดถูกใช้เป็นส่วนผสมหลักในการผลิตสีทาบ้าน สีสำหรับงานไม้ และสีสำหรับงานศิลปะ เนื่องจากช่วยเพิ่มความเหนียว ความแข็งแรง และความทนทานของสี
-
อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุ: น้ำมันลินสีดถูกนำมาใช้ในการผลิต linoleum (วัสดุสำหรับพื้น) และ varnishes (น้ำยาเคลือบเงา)
-
งานศิลปะและงานฝีมือ: ศิลปินและช่างฝีมือใช้ น้ำมันลินสีดในการผสมสีเพื่อเพิ่มความหนา ความทนทาน และสีที่สวยงาม
-
การบำรุงรักษาไม้: น้ำมันลินสีดถูกนำมาใช้ในการเคลือบผิวไม้ เพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา
กระบวนการผลิต: จากเมล็ดถึงน้ำมัน
การผลิตน้ำมันลินสีดเริ่มต้นจากการเก็บเกี่ยวเมล็ดลินสีด ซึ่งมักจะทำในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมล็ดลินสีดเหล่านี้จะถูกนำมาทำความสะอาดและแยกออกจาก杂质 จากนั้นจะถูกบดละเอียดเพื่อสกัดน้ำมัน
มีหลายวิธีในการสกัดน้ำมันลินสีด:
-
การบีบเย็น: เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากไม่ต้องใช้ความร้อน จึงทำให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพสูง
-
การสกัดด้วยตัวทำละลาย: วิธีนี้ใช้ตัวทำละลาย เช่น Hexane เพื่อสกัดน้ำมันลินสีดออกจากเมล็ด
หลังจากสกัดน้ำมันแล้ว จะนำมาผ่านกระบวนการกรองเพื่อ loại bỏตะกอน
- การอบ: น้ำมันลินสีดที่ผ่านการอบ (Boiled linseed oil) จะมีความหนืดและความทนทานสูงกว่าน้ำมันลินสีดแบบปกติ เนื่องจากถูกを加ความร้อนในช่วงเวลาสั้น ๆ
ข้อควรระวัง: ความปลอดภัยในการใช้
น้ำมันลินสีดสามารถติดไฟได้ง่าย ดังนั้นจึงควรเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทและ远离แหล่งกำเนิดความร้อน
เมื่อทำงานกับน้ำมันลินสีด ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น แว่นตา ถุงมือ และหน้ากาก เพื่อป้องกันการสัมผัส
สรุป: น้ำมันลินสีดเป็นสารสกัดจากพืชที่มีคุณสมบัติโดดเด่นและหลากหลาย
ด้วยความเหนียว การกันน้ำ และความทนทานต่อแสง UV ทำให้ น้ำมันลินสีด เป็นวัสดุที่สำคัญในอุตสาหกรรมและงานศิลปะ